ล่าสุดผู้สื่อ่าว ได้ติดต่อไปทางเพื่อนสนิทของสาวนุ๊ก อย่าง โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา เจ้าตัวก็เผยว่าได้อยู่กับนุ๊กตั้งแต่เริ่มแรกที่เข้ารับการผ่าตัดไทรอยด์ และพอรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งก็อยากให้เจ้าตัวออกมาเปิดเผยเองก่อน
เข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ก็น่าจะอยู่ 3 วัน คือตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. ออกวันที่ 24 ก.ค. นี้ครับ ตอนนี้ก็คงเป็นไปตามข่าวที่เรารู้กันเนอะว่าเป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลือง หมอก็ใช้วิธีกลืนแร่ เหมือนเป็นเคมีบำบัด แต่มันก็ช่วยในเรื่องการรักษาไทรอยด์และต่อมน้ำเหลือง ซึ่งหลายๆ คนก็ถามมาเยอะ แต่เขาก็สภาพจิตใจโอเคนะ เวลาเขาลงรูปอะไรเขาก็เต็มร้อยนะ พร้อมจะไฟท์ติ้งกับมัน
ตัวโก้ก็รู้มาตั้งแต่ต้น เพราะไปตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลครั้งแรก ไปห้องผ่าตัด เจอหมอ หมอตัดไทรอยด์ออกมาโก้ยังไปส่องดูกับคุณแม่เขาเลย ก็มีชิ้นเนื้อที่มันดูผิดปกติ หมอก็บอกว่าต้องส่งไปตรวจ แต่นุ๊กเขาก็คิดในใจอยู่แล้วล่ะว่ามันน่าจะใช่ เราก็ยังถามเลยว่าบ้านแกมีกรรมพันธุ์หรือเปล่า เขาก็บอกเคยมีญาติๆ กัน แต่ก็ไม่ได้เป็นที่จุดนี้ แต่เราก็ให้กำลังใจกัน แล้วก็พูดในเรื่องสิ่งดีๆ ไม่ได้ไปโฟกัสเรื่องตรงนี้มาก ก็ไม่ได้อยากไปถามบ่อยๆ
ตอนออกจากโรงพยาบาลครั้งแรกเราก็พาเขาไปพักฟื้นนะ ไปที่แก่นกระจาน ไปเที่ยว ไปกับครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง สามี ลูกๆ ไปกันหมดเลย ก็แฮปปี้กันดี กำลังใจดีครับ หลังจากออกมาไม่นานเขาก็ไปทำงานต่อเลยนะ ยังทำงานกับโก้ด้วย เขาก็แข็งแรงดีครับ
บอก นุ๊ก คลำเจอก้อนที่คอ ไปผ่าถึงพบก้อนเนื้อผิดปกติ เขาก็ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยเป็นลมล้มฟุบอะไรนะ แต่เขาคลำดูที่คอ แล้วเขารู้สึกว่ามันเป็นก้อนแข็งๆ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นก้อนอะไร ก็เลยไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เขาก็เลยแนะนำว่าให้ไปหาหมอทางด้านเกี่ยวกับไทรอยด์ พอไปตรวจไทรอยด์ก็เลยพบว่ามันมีเนื้องอกนะ ซึ่งหมอเขาก็บอกว่ามันผิดปกติ ควรจะผ่าออกเลย ก็เลยนัดวันผ่า แล้วเขาก็ฟอลโลว์อัปตามคำแนะนำของแพทย์ครับ ที่ไปเริ่มตรวจเจอก็น่าจะประมาณหนึ่งเดือนครึ่งได้มั้ง
พอรู้ว่าผลตรวจพบเชื้อมะเร็ง จริงๆ ก็ไม่ได้มีเพื่อนรู้เยอะ ก็จะมีแต่ตัวโก้กับนุ๊กนี่แหละ แต่โก้ก็ไม่ได้พูด เราก็รอให้เจ้าตัวเขาพูดเองดีกว่า เพราะมันไม่ใช่หน้าที่เราที่จะต้องไปบอกใคร แต่พอเขากับผู้จัดการได้แจงมาแล้วคนก็โทร.มาหาโก้กันเยอะมากว่ารู้เรื่องไหม เราก็บอกว่ารู้ตามนั้นแหละ ก็เป็นกำลังใจอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา เดี๋ยววันที่ 24 ออกจากโรงพยาบาลเขาก็จะมาพักที่บ้านโก้นะ เพราะบ้านโก้ทำอพาร์ตเม้นท์ ก็ให้เขามาพักฟื้น 1 สัปดาห์เลย เพราะช่วงแรกยังไม่ควรไปเจอคนเยอะ แล้วยิ่งลูกๆ เขาก็ชอบมากอดรัดฟัดเหวี่ยง หมอก็แนะนำว่าไม่ควร เราก็จะอยู่ดูแลกันใกล้ชิดนี่แหละ
เผยที่ไม่เห็นสามีและลูกๆ มาเยี่ยมที่โรงพยาบาล เพราะ นุ๊ก เป็นฝ่ายขอเอาไว้ ที่ไม่เห็นครอบครัวเขาไปหาที่โรงพยาบาลก็เพราะนางไม่ยอมให้ไป แต่นางเรียกเพื่อนไป นุ๊กโทร.มาบอกว่าเดี๋ยวฉันจะเข้าห้องผ่าตัดนะ แกต้องมา โก้ก็ถามว่าแล้วลูกผัวแกล่ะ เขาบอกฉันไม่อยากให้มาที่โรงพยาบาล โก้ก็ถามอีกแล้วแกเรียกให้ฉันไปทำไม (หัวเราะ) นางก็บอกว่าอยากได้กำลังใจจากเรา เราก็เลยโอเคบอกว่าฉันจะไปส่งแกที่ห้องผ่าตัดนะ เราก็ทำตามที่นางต้องการทุกอย่าง ไปให้กำลังใจ
ครอบครัวนางไม่มีปัญหา แต่เพราะมีเด็กๆ ไง นางก็เลยไม่อยากให้ลูกๆ มาเห็นสภาพแม่อยู่ในโรงพยาบาล แล้วนางก็คิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ ผ่าแล้วก็เสร็จ นางก็เป็นสตรองมัมของนาง ส่วนที่น้องชายเขาให้เงินมาช่วยค่าผ่าตัดก็เพราะเขาแสดงความมีน้ำใจต่อพี่สาว ก็เป็นเรื่องปกติ จริงๆ คุณพ่อของนุ๊ก (พลอากาศเอก หม่อมหลวงสุทธิรัตน์ เกษมสันต์) ก็ช่วยเทคแคร์นะ พ่อแม่ก็มาดูแลลูกตามปกติ แต่แค่แกไม่ได้ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ แต่พอผลวินิจฉัยออกมามันดูค่อนข้างรุนแรง เขาก็ประกาศทางไอจีเพื่อให้คนทราบข่าว หรือคนที่เป็นเจ้าภาพงานอะไรต่างๆ ได้ทราบด้วยว่าตอนนี้เราทำอะไรอยู่
แต่เขาต้องหยุดงานไหม อันนี้ไม่แน่ใจเลย เพราะตอนที่ผ่าออกมาครั้งแรกหยุดไม่กี่วันเขาก็ออกมาทำงานได้เลยนะ เพราะก็ไม่ใช่ว่าแขนขาเดินไม่ได้หรือสมองไม่ดีอะไรอย่างนั้น เขาก็ยังปกติ เพราะหมอเขาก็ผ่าเรียบร้อย ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ครั้งล่าสุดที่จะออกมาเนี่ยไม่แน่ใจ เพราะวันนี้เขาก็มีอาการคลื่นไส้ เหมือนจะอาเจียน ซึ่งเราก็ต้องดูผลในวันที่ 24 นี้ว่าออกมาแล้วเขาจะมีอาการเป็นอย่างไร
นุ๊กยังแฮปปี้ ร่างกาย-จิตใจแข็งแรงดี เท่าที่ดูโก้คิดว่าสภาพจิตใจเขาเต็มร้อยนะครับ เขาโอเคเลยล่ะ เขาเป็นคนที่ใจแข็ง ใจเด็ด เป็นผู้หญิงทำมาหากิน เราก็คิดว่าเขาจะต้องผ่านมันไปได้ด้วยดี แต่ก็คงคิดถึงลูกแหละ แต่เขาเป็นคนวางแผนที่ดีนะ เขาก็วางแผนว่าเขาจะทำอะไรยังไงที่ไหน จะเอาลูกไปให้ใครดูแล แม่เขาก็ดูแลอยู่ เพราะเขามีบ้านสวนด้วย เขาก็จัดการชีวิตครอบครัวเขาได้ดี ก็เหมือนลามาพักร้อนรักษาตัวแป๊บนึง สัก 10 วัน น่าจะสักต้นเดือนหน้าเขาก็กลับบ้านเขาแล้ว
เขากับสามีก็ยังปกติ ทุกอย่างปกติดีครับ แค่เวลามีอะไรนุ๊กเขาจะชอบเรียกแต่โก้ให้ไป ซึ่งฉันก็บอกว่าฉันไม่ใช่สามีเธอนะ (หัวเราะ) แต่เราก็เข้าใจเขานะ เพราะเวลาป่วยๆ เขาก็คงไม่อยากให้ครอบครัวให้ลูกรู้มากกว่าครับ
Another News:
0
Blogger 0
Facebook